ชำแหละ !!! The New iPad 3 (นิวไอแพด3) iFixit จัดหนักเปลือยหมดเปลือก

เปิดขาย The New iPad 3 (นิว ไอแพด 3) วันแรก ใน 10 ประเทศแรกได้ไม่ถึงครึ่งวัน มือชำแหละเจ้าประจำอย่าง iFixit ก็ไม่รอช้าไปเข้าคิวซื้อ The new iPad (iPad3) เพื่อ ที่จะมาชำแหละงัดแงะ แบบหมดเปลือกสมาชิกทั้งหลายได้ชมกัน และแฉถึงสเปคนิวไอแพด พร้อมทั้งชิป ซีพียู รวมถึงกล้อง ทั้งหมดให้เราได้รู้กันว่ามันคืออะไร เราไปชมกันเลยครับ + รีวิวชำแหละ The New iPad 2012 พร้อม VDO

ชำแหละ The New iPad Review หมดเปลือก

ได้แล้วหนึ่งชิ้นเป็นส่วนของหน้าจอ Retina Display 3 ล้านพิเซล และตามที่เห็นรหัสในภาพนี้ทาง iFixit นำไปตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ผลิตคือ Samsung คร๊าบบบบ 

Chips Broadcom Wi-Fi 802.11a/b/g/n และที่ลุ้นกันแบบตัวโก่งก็คือ New iPad มี Ram DDR2 1Gb ตามข่าวลือเลยละครับ (iPad2 มีแค่ 512mb) 

ขุมพลังก็เป็นไปตาที่แอปเปิ้ลบอกครับนิวไอแพดมี CPU Apple A5X Dual-core Processor ความเร็วอยู่ที่ 1GHz 

Battery The New iPad 3 มีความจุ 24.5Wh (11,66 mAh) มีจำนวน 3ก้อน และมีขนาดใหญ่กว่า iPad2 เหตุนี้ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดหนากว่านิดหน่อยนั่นเอง 

Camera : The New iPad 3 มีความละเอียด 5ล้านพิกเซล ตามสเปคแล้วมีเลนส์ถึง 5 ชิ้นซ้อนกันเหมือนกัน iPhone 4s เลยครับ 

Camera: กล้องเถื่อนหนีภาษีทะลักเข้าจีน ล็อตมหึมาจิ๊บๆแค่กว่า 2พันล้านบาท!

Camera: กล้องเถื่อนหนีภาษีทะลักเข้าจีน ล็อตมหึมาจิ๊บๆแค่กว่า 2พันล้านบาท!

นอกจากขึ้นชื่อเรื่องของปลอมแล้ว พี่จีนเรายังมีข่าวค้าของเถื่อน โดยล่าสุดตำรวจศุลกากรจีนได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 14 ราย พร้อมยึดของกลางเป็นกล้องดิจิตอลและอุปกรณ์ต่างๆรวมกว่า 63.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือถ้ามาเป็นคำนวณเป็นเงินไทยก็ประมาณ 2พันกว่าล้านบาทเอง โดยสินค้าหนีภาษีทั้งหมดนั้นประกอบด้วยกล้อง 60,204 ตัว เลนส์จำนวน 13,623 ตัว แฟลชอีก 483 ตัว กล้องวีดีโอจำนวน 1,025 ตัว และโปรเจ็คเตอร์ 348 ตัว

สำหรับกล้องหนีภาษีเหล่านี้มีราคาถูกกว่าไป ซื้อที่ฮ่องกงราว 20-30 เปอร์เซ็นต์ โดยกลุ่มผู้ลักลอบนำเข้าจะเอาไปขายในจีนแผ่นดินใหญ่ตามแหล่งขายกล้องต่างๆ หรือถ้าเป็นบ้านเราก็คงจะอารมณ์ประมาณว่ากล้องประกันร้าน

แต่ที่น้าป๋วย TechXcite สงสัยก็คือ ไอ้พวกนี้มันไปรับของมาจากไหนหว่าถึงได้สินค้ามหึมาขนาดนี้ แถมราคาถูกกว่าชาวบ้านชาวช่องเค้าอีก หรือว่ามันไปเหมารับหน้าโรงงานกัน เพราะสินค้าหลายชิ้นน่าจะผลิตในจีนเองนั่นแหละ!!

Review iTools : วิธี Sync iPhone, iPad ข้อมูล,เพลง,รูป โดยไม่ต้องใช้ iTunes

Review iTools : Sync iPad, iPhone โดยไม่ต้องใช้ iTunes

   

Review iTools : วิธี Sync iPhone, iPad ข้อมูล,เพลง,รูป โดยไม่ต้องใช้ iTunesReviewed by Review iTools on Mar 27Rating: 5.0iToolsiTools Sync

การใช้งาน iTunes นั้นมันแสนจะยุ่งยาก สำหรับคนไทยเสียเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นการใส่รูป การ Sync Account  หรือการ Sync music ที่ไม่ค่อยจะสะดวกสบายนัก บางคนก็หนีมาใช้ ImToo iPad Mate แต่ก็ติดเรื่องที่ต้องเสียงเิงิน (จะหา Crack ก็ยากซะเหลือเกิน) จนมาถึง iTools ที่สามารถตอบโจทย์ของผู้ัใช้ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความง่ายในการใช้งาน และขนาดก็เล็กแค่ 4.73M แถมไม่ต้องติดตั้ง อีกด้วย (เปิดแล้วใช้ได้เลย) สุดยอดจริงๆ กับโปรแกรมตัวนี้ ไปดูวิธีการใช้งานกันเลยครับ
 STEP1: เปิด iTools ขึ้นมา (ต่อ iPad, iPhone เข้ากับ computer ด้วย) จะพบกับหน้าจอบอกรายละเอียดต่างๆ ของ iDevcie (ตัวอย่างเป็น iPad) ไม่ว่าจะเป็นเนื้อที่ ที่เหลือ หรือประเภทของไฟล์ ชื่อเครื่อง Serial และวันเปิดใช้งาน 
หมายเหตุ: เราสามารถเปลี่ยนชื่อเครื่อง ได้จากหน้าจอนี้โดยกดที่ Rename ครับ


 STEP2: Photo มา ดูกันเรื่อง Sycn Photos, Sync CameraRoll กันครับทำได้หน้าตาหน้าใช้งานมากๆ สามารถนำรูปเข้า/ออก iPad, iPhone ได้ทันที และเปิดดูใน iDevice ได้ทั้งหมด แบบเดียวกับ iTunes ไม่ผิดเพี้ยนเลยครับ


 STEP3: Applcations ส่วนของ Apps ปรับหน้าตามาให้ใช้งานง่ายกว่า iTunes หรือ ImToo iPad Mate มากมีแบ่งอินเตอร์เฟรดการใช้งานชัดเจน ทั้ง Backup, Uninstall, View Files 


 STEP4: iCons ส่วนนี้พิเศษสำหรับ iTools เป็นฟังก์ชั่นที่ทาง iTunes หรือ ImToo iPad Mate ไม่มี โดยเราสามารถ แ้ก้ไข/ ย้าย/ ลบ/ สร้าง iCon ในหน้าจอ iPad, iPhone ได้ทั้งหมด คนที่เบื่อที่จะย้าย icon ทีละอันหรือว่าขี้เกียจลง Cydia App: MultiIconMover ก็ต้อง iTools เลยครับ 


 STEP5: Live Desktop สุดยอดครับไม่คิดว่าจะมี (แบบนี้ลืม iTunes ไปเลย) พูดง่ายๆ ก็คือการถ่ายทอดสด หน้าจอ iPad, iPhone ของเรามาที่ computer ครับ แถมบันทึก VDO หรือ Caputre Photo ได้ด้วยครับ 


 STEP6: Music&Ringtone การจัดการ RingTone iPhone ด้วย iTunes คงจะยุ่งยากสำหรับบางคนมิใช้น้อย ก็ตั้งแต่เรื่อง Sync iTunes ไปจนถึงสร้าง Liberary และอีกมากมาย ปัญหาพวกนี้จะเป็นเรื่องง่ายสำหรับ iTools เลยละครับ รวมไปถึงการจักการ Video file ด้วย และยังสามารถทำการติดตั้งแอพพลิเคชั่นจาก Cydia & installous ได้อีกด้วยครับ 

ต่อไป iTools คงจะเข้ามาแทน iTunes เป็นแน่สำหรับการใช้่งาน ทดสอบด้วย iPad1, iPad2 และ iPhone 4 บน Firmware Apple iOs 5.0.1 และ iOs 5.1 สามารถใช้งานได้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใดครับ แอปพลิเคชั่นจากจีน ดีๆ แถม Download Free แบบนี้ไม่ควรพลาดเลยละครับ

ทำความรู้จัก Mac OS X 10.8 Mountain Lion

by Siammac | posted: 16/02/2012 0 comment

ทำความรู้จัก Mac OS X 10.8 Mountain Lion

หลังจาก Apple ซุ่มพัฒนา OS X เวอร์ชั่นล่าสุดออกมาให้ได้ใช้งานกันนั่นก็คือ OS X Lion 10.7.3 ไม่น่าเชื่อว่าจะมีเซอร์ไพรการปล่อยเวอร์ชั่นใหม่ของ OS X 10.8 Mountain Lion ออกมา โดยระบุว่าจะสามารถเปิดตัวได้อย่างเป็นทางการและพร้อมจะให้ทุกคนได้อัพเดทกันในช่วงหน้าร้อนนี้
โดยตัว OS X 10.8 มีการปรับรูปโฉมใหม่หมดทั้งระบบ และเพิ่มขีดคามสามารถในการใช้งานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์อย่าง iPhone , iPod , iPad และอุปกรณ์อื่นๆที่ใช้ระบบปฎิบัติการ OS X ทั้งหมด เพิ่มความสะดวกสะสบายด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆดังนี้

ทำความรู้จัก Mac OS X 10.8 Mountain Lion

iCloud

iCloud

สามารถใช้งานได้โดยการ Login iCloud ID จาก ตัวอุปกรณ์ iDevice หรือจาก Mac แล้วทำการจัดการไฟล์ได้ในครั้งเดียว เสมือนการโคลนนิ่งไฟล์จากที่หนึ่งไปยังอีกทีนึงอย่างง่ายดาย

Messages

Messages

สามารถใช้งานด้านการติดต่อ สนธนา ใช้งานได้เหมือนกับ iChat และจะเป็นตัวตายตัวแทนของ iChat เลยทีเดียว โดยใน OS X 10.8 จะมี iMessages มาแทน iChat เลย โดยสามารถส่งไฟล์ พิมพ์พูดคุย หรือแม้แต่ Facetime ผ่านแอปฯนี้ได้จากทั้ง iPhone iPad iPod และ Mac

Reminder

Reminder

สามารถตั้งค่าการเตือนกิจกรรมหรือธุระสำคัญที่เพื่อนๆจะต้องทำ หรือโน๊ตไว้กันลืม ตัว Reminder เองจะทำการส่งอีเมลอัตโนมัติไปหาอีเมลที่ใช้ iCloud หรือ Apple ID และยังแจ้งเตือนผ่านตัวอุปกรณ์อีกด้วย ทำให้ไม่พลาดการนัดหรือกิจกรรมต่างๆ

Notes

Notes

สามารถอำนวยความสะดวกในการจดบันทึกไม่ว่าจะเป็น Text หรือไฟล์รูปภาพ ไฟล์แนบต่างๆ และยังสามารถอัพเดทไปให้อุปกรณ์พกพาอื่นๆได้อีกด้วย

Notification Center

Notification Center

ศูนย์รวมการแจ้งเตือนต่างๆไม่ว่าจากแอปฯหรือจากอีเมล ข้อความ และอื่นๆอีกมากมาย สามารถตั้งการเตือนได้หลากหลายระดับ

Share Sheets

Share Sheets

โดยใน OS X Mountain Lion รุ่นใหม่จะมีปุ่มเพิ่มมาให้นั่นก็คือปุ่ม Share สามารถกดแชร์สิ่งต่างๆได้ผ่านทาง Safari รูปภาพ ไฟล์วีดีโอ ข้อความละอื่นๆไปหาอุปกรณ์อื่นๆได้อย่างง่ายดาย ผ่านทางอีเมลหรือทวิตเตอร์และโซเชียลมีเดียอื่นๆ

Twitter

Twitter

ไม่ว่าจะใช้งานแอปฯไหน หน้าจอไหนก็สามารถทวิตหน้านั้นๆไปหาเพื่อนๆได้โดยตรงไม่ต้องผ่านหน้าเว็บของ ทวิตเตอร์เอง แต่ต้องมีการ Login ซะก่อน

Game Center

Game Center

ระบบนี้มีอยู่แล้วใน iOS 5 สามารถ Login ด้วย Apple ID , iCloud ID เพื่อแชร์ข้อมูลการเล่นเกมส์ คะแนน และเล่นร่วมกับเพื่อนๆได้

AirPlay Mirroring

AirPlay Mirroring

คุณสมบัติใหม่อีกหนึ่งตัวที่สามารถเชื่อมต่อหน้าจอแสดงผลเพิ่มได้อีกไม่ว่าจาก MacBook หรือจาก iMac โดยต้องใช้กับ Apple TV เท่านั้น

Gatekeeper

Gatekeeper

ปราการด่านสำคัญสำหรับ Mac OS X ที่จะคอยสอดส่องดูแลไฟล์ต่างๆให้มีความปลอดภัยสูงสุด ไม่ว่าจะดาวโหลด อัพโหลด จะต้องมีการตรวจสอบจาก Gatekeeper ก่อน เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน Mac ได้ในระดับสูงสุด

Camera: เอ๊ะ! นี่เลนส์อะไร บางคนเห็นแล้วก็ไม่เข้าใจ Nikon 18-300mm ตัวเที่ยวเที่ยวรอบจักรวาล

 Camera: เอ๊ะ! นี่เลนส์อะไร บางคนเห็นแล้วก็ไม่เข้าใจ Nikon 18-300mm ตัวเที่ยวเที่ยวรอบจักรวาล

เลนส์ใหม่เพิ่งหลุดจากค่าย Nikon ไม่น่าเชื่อว่าจะมีเลนส์แบบนี้ถูกผลิตขึ้นมาเพราะมันคือ Nikon AF-S Nikkor 18-300mm f/3.5-5.6G ED DX VR หรือเลนส์อเนกประสงค์ที่ซูมได้ตั้งแต่มุม Wide จนถึงระยะเทเลแบบสุดโหด 300mm ด้วยภาพหลุดของเลนส์ตัวนี้ทำเอาสาวก Nikon ร้องซี้ด เพราะระยะซูมสุดโหดที่หากคุณมีไว้ครอบครองแล้วรับรองได้เลยว่าพกตัวเดียว เที่ยวรอบจักรวาล ไม่ต้องมานั่งเปลี่ยนเลนส์ให้เมื่อยตุ้ม

Add caption

สำหรับเลนส์ใหม่ล่าสุดตัวนี้เป็นเลนส์สำหรับ กล้องตัวคูณ พวกใช้ Full Frame หมดสิทธิ์ เพราะเอาไปใช้แล้วติดขอบดำชัวร์ ส่วนสเป็คที่น่าสนใจมีดังรายการต่อไปนี้

• เลนส์ซูม 16.7 เท่า ทางยาวโฟกัส 18-300mm เทียบเท่าทางยาวโฟกัสของกล้อง Full Frame ที่ 27-450mm
• ระบบป้องกันภาพสั่นไหว VRII ช่วยลดการสั่นไหวของภาพได้สูงถึง 4 Stop
• รูรับแสงที่ระยะซูมสุด 5.6 ซึ่งถือว่าใช้ได้เลยทีเดียวสำหรับการใช้งาน 300mm F5.6
• มีระบบล็อคซูมเมื่อไม่ได้ใช้งาน
• ไดอะแฟรม 9 กลีบ ช่วยให้ได้โบเก้สวยงาม
• มีชิ้นเลนส์ ED ลดความคลาดสีช่วยเพิ่มความคมชัดให้ภาพ
• มอเตอร์ Silent Wave ทำให้โฟกัสได้รวดเร็วและเงียบ แถมใช้กับกล้องที่ไม่มีมอเตอร์ในตัวได้อีกด้วย
• ชิ้นเลนส์ 19 ชิ้น 14 กลุ่ม
• ระบบ Internal Focus และสามารถ Shift Focus ได้ โดยไม่ต้องปรับสวิทซ์ใดๆ
• สามารถโฟกัสได้ใกล้สุดที่ระยะ 0.45 เมตร ในขณะที่ซูม 300mm
• หน้าเลนส์ขนาด 77 mm
• น้ำหนัก 830 กรัม

the new ipad (ipad 3 )

"The New iPad (iPad 3) หน้าจอแบบ Retina Display ละเอียดขึ้นกว่าเดิม ชิป Apple A5X แบบ Dual-core Processor และประมวลผลภาพเร็วขึ้นด้วย GPU แบบ Quad-core Processor พร้อมกล้องละเอียดขึ้น 5 ล้านพิกเซล" [8-มีนาคม-2555] สิ้นสุดการรอคอยเสียทีครับ กับการเปิดตัว ไอแพด (iPad) รุ่นใหม่ ของปี 2012 ที่มีชื่ออย่างเป็นทางการแบบสั้นๆ ว่า ไอแพด iPad 3 (The new iPad) ซึ่ง ไอแพด iPad 3 (The new iPad) ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2012 ที่ผ่านมา เวลา 10.00 น. ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา หรือเวลาประมาณ ตีหนึ่ง ตามเวลาในประเทศไทย สำหรับรูปลักษณ์การออกแบบ ไอแพด iPad 3 (The new iPad) นั้น สิ่งแรกที่เราสังเกตเห็นก็คือ หน้าตาของ ไอแพด iPad 3 (The new iPad) นั้น มีหน้าตาเหมือนกับ ไอแพด 2 (iPad 2) แทบจะทุกประการ อีกทั้ง ไอแพด iPad 3 (The new iPad) ยังมีหน้าตาคล้ายกับ ภาพหลุด จากเว็บ MIC GADGET ที่มาเป็นคลิปวิดีโอ เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมานี้อีกด้วย เรามาดูกันว่า ไอแพด iPad 3 (The new iPad) มีความโดดเด่นในด้านใดบ้าง และ ไอแพด iPad 3 (The new iPad) จะเหนือกว่า ดีกว่า ไอแพด 2 (iPad 2) อย่างไร มาดูกันครับ   การออกแบบตัวเครื่อง ของ iPad 3 (The new iPad) หน้าจอแบบ Retina Display ชัดขึ้น อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สำหรับใครที่เคยคิดว่า ไอแพด 2 (iPad 2) ก็ชัดอยู่แล้ว ดีอยู่แล้ว อาจจะต้องเปลี่ยนใจ เมื่อเจอ The new iPad (iPad 3) ครับ เนื่องจาก The new iPad (iPad 3) ใช้หน้าจอแบบ Retina Display ที่มีความละเอียดมากกว่าบน ไอแพด 2 (iPad 2) ถึง 4 เท่า ทำให้ The new iPad (iPad 3) มีระดับความละเอียดของหน้าจออยู่ที่ 2048 x 1536 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซลที่ 264 ppi ให้สีที่คมชัดขึ้น 44% ซึ่งละเอียดกว่า ความละเอียดระดับ HDTV เสียอีก และทำให้มุมมองของภาพกว้างขึ้นอีกด้วยครับ เปรียบเทียบ ความละเอียดบน The new iPad (iPad 3) กับ HDTV ชิป Apple A5X พร้อมหน่วยประมวลผลภาพ (GPU) ระดับ Quad-core Processor The new iPad (iPad 3) ใช้ชิป Apple A5X ซึ่งเป็นชิพเซ็ทแบบ Dual-core Processor ในขณะที่ระบบประมวลผลภาพ หรือ GPU นั้น เป็นชิพเซ็ทระดับ Quad-core Processor ที่สามารถรองรับกราฟฟิค กับหน้าจอความละเอียดแบบ Retina Display ได้เป็นอย่างดี แบตเตอรี่ รองรับการใช้งานได้ 10 ชั่วโมงเท่าเดิม ไม่น่าเชื่อว่า ด้วยคุณสมบัติที่เหลือล้นของ The new iPad (iPad 3) ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแบบ Retina Display และ GPU ระดับ Quad-core Processor จะสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมงเท่าเดิม แต่ถ้าหากใช้งานผ่านเครือข่าย 4G จะใช้งานได้ประมาณ 9 ชั่วโมงครับ กล้องด้านหลัง ละเอียดขึ้น 5 ล้านพิกเซล The new iPad (iPad 3) น่าจะถูกใจคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูปกันอย่างแน่นอนครับ จาก ไอแพด 2 (iPad 2) ที่มีกล้องละเอียดเพียง 0.7 ล้านพิกเซล กลายเป็น The new iPad (iPad 3) ที่มีกล้องด้านหลัง ความละเอียดถึง 5 ล้านพิกเซล ที่มีชื่อว่า iSight Camera เรียกได้ว่า หน้าจอชัดยังไม่พอ รูปถ่ายที่ได้ ยังคมชัดอีกด้วยครับ สำหรับเลนส์บน The new iPad (iPad 3) นี้ เป็นเซ็นเซอร์แบบ Backside illumination sensor ที่ให้ภาพที่คมชัด แม้ว่าจะอยู่ในสภาวะแสงจ้า หรือแสงน้อยก็ตาม โดยเลนส์ที่ใช้ประกอบนั้น เป็นเลนส์ทั้งหมด 5 ชิ้นครับ (five-element lens) ประกอบออกมาเป็นเลนส์ 1 ชุด และมีขนาดรูรับแสงกว้างที่ ƒ/2.4 พร้อม Hybrid IR Filter สำหรับการกรองคลื่นแสงอินฟราเรด ทำให้ถ่ายภาพได้สีสดมากขึ้น โดยสามารถพบได้ทั่วไปตามกล้อง DSLR อยู่แล้ว ส่วนการถ่ายภาพวิดีโอ สามารถบันทึกได้ขนาดสูงสุดที่ Full HD 1080p ครับ รองรับ Smart Cover ใครที่มี Smart Cover อยุ่แล้ว ไม่ต้องเสียดายครับ เพราะ Smart Cover บน ไอแพด 2 (iPad 2) นั้น สามารถใช้กับ The new iPad (iPad 3) ได้เช่นกัน ความสามารถใหม่ของ iPad 3 (The new iPad) รองรับเครือข่าย 4G LTE เพิ่มประสิทธิภาพในการท่องโลกอินเทอร์เน็ตได้เร็วขึ้น ด้วยคุณสมบัติในการรองรับเครือข่าย 4G LTE ที่สามารถดาวน์โหลดได้เร็วถึง 73 Mbps เลยทีเดียวครับ นอกจากนี้ The new iPad (iPad 3) ยังรองรับเครือข่าย GSM/UMTS ที่สามารถใช้งานได้ทั่วโลกอีกด้วย สามารถเป็น Hotspot ได้แล้ว อีกหนึ่งความสามารถ ที่ใครหลายๆ คนต้องการ เพราะในที่สุด The new iPad (iPad 3) ก็สามารถใช้เป็น Personal hotspot ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ โดยสามารถเชื่อมต่อได้สูงสุดถึง 5 อุปกรณ์ด้วยกัน ผ่านทาง Wi-Fi, Bluetooth หรือ USB มี Dictation ในตัว ถ้าหากใครที่ใช้ ไอโฟน 4S (iPhone 4S) มาแล้ว คงจะรู้จักฟังก์ชั่น Dictation กันเป็นอย่างดี โดย Dictation นี้ จะทำหน้าที่พิมพ์แทนเรา เพียงแค่พูดครับ ซึ่งวิธีการใช้งานก็ง่ายๆ อยากให้ The new iPad (iPad 3) พิมพ์คำว่าอะไร ก็กดปุ่ม Dictation แล้วพูด ระบบจะทำการพิมพ์ให้เราโดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นวิธีการที่สะดวก และปลอดภัยอย่างมาก ถ้าหากใช้งานขณะขับรถอยู่ครับ แอพพลิเคชั่นใหม่ บน iPad 3 (The new iPad) iPhoto จากโปรแกรมยอดฮิตบน Mac ได้มาสู่ The new iPad (iPad 3) เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ กับ iPhoto หรือโปรแกรมจัดการภาพถ่าย ที่สามารถจัดการกับภาพถ่ายได้อย่างง่ายดาย และเป็นหมวดหมู่ สามารถเลือกภาพมาเปรียบเทียบกันได้ หรือตั้งเป็น favourite ก็สามารถทำได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้วสัมผัสครับ นอกจากนี้ iPhoto ยังสามารถแก้ไขภาพถ่ายได้ง่ายๆ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้าน Photoshop ครับ อยากปรับสีจุดไหน อยากแก้ไขภาพตรงไหน ก็แค่แตะ แล้วลากขึ้นลงตามใจชอบ ภาพถ่ายธรรมดาๆ คงจะดูเชยไปแล้ว มาเพิ่มลูกเล่นให้กับภาพถ่าย ด้วยเอฟเฟกซ์บน iPhoto กันครับ ปิดท้ายการตกแต่งภาพขั้นตอนสุดท้าย ด้วย Brushes สำหรับการแต่งภาพเฉพาะจุด เช่น อยากให้ภาพสว่างขึ้น คมชัดชึ้น หรือมืดลง หรือให้ภาพมีลักษณะนวล เลือก Brushes ที่ต้องการ แล้วปาดลงไปบนจุดที่ต้องการจะแก้ไขครับ เมื่อเราทำการตกแต่งภาพถ่าย ด้วย iPhoto เสร็จเรียบร้อยแล้ว เรามาสร้างเรื่องราวให้กับภาพต่างๆ เหล่านี้ ด้วย Photo Journals ครับ ง่ายๆ เพียงแค่เลือกกลุ่มภาพที่ต้องการจะสร้าง จากนั้น iPhoto จะทำการ จัดการเรียงภาพต่างๆ เหล่านี้ให้โดยอัตโนมัติ เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถอัพโหลดขึ้นแชร์บน Facebook, Twitter หรือ Flickr ไว้อวดเพื่อนๆ ได้เลยทันทีอีกด้วย สำหรับราคาของ iPhoto จำหน่ายอยู่ที่ $4.99 ครับ ราคา iPad 3 (The new iPad) ราคา The new iPad (iPad 3) ตอนเปิดตัวนั้น เท่ากับราคา ไอแพด 2 (iPad 2) ตอนเปิดตัว โดยมี 3 ความจุให้เลือกคือ 16 GB, 32 GB และ 64 GB และ 2 โมเดลให้เลือก นั่นก็คือ Wi-Fi และ Wi-Fi + 4G โดยมีราคาเป็นดังนี้ครับ 16GB 32GB 64GB Wi-Fi $499 (15,900 บาท) $599 (18,900 บาท) $699 (21,900 บาท) Wi-Fi + 4G $629 (19,900 บาท) $729 (22,900 บาท) $829 (25,900 บาท) ไอแพด 2 (iPad 2) ราคาลดลง 3,000 บาท ตามธรรมเนียมครับ เมื่อมีการออก iPad รุ่นใหม่ iPad รุ่นก่อนหน้า จะมีการปรับราคาลง รุ่นละ $100 หรือประมาณ 3,000 บาท ทำให้ ไอแพด 2 (iPad 2) นั้น จำหน่ายที่ราคา $399 หรือประมาณ 12,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ $529 หรือประมาณ 15,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + 3G และเหลือเฉพาะความจุ 16 GB อีกด้วยครับ iPad 3 (The new iPad) วางจำหน่าย 16 มีนาคมนี้ The new iPad (iPad 3) จะวางจำหน่ายครั้งแรก ในวันที่ 16 มีนาคมนี้ ใน 10 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, สวิตเซอร์แลนด์, ญี่ปุ่น, ฮ่องกง, สิงคโปร์ และออสเตรเลีย และ The new iPad (iPad 3) จะวางจำหน่ายเพิ่มอีก 26 ประเทศ ในวันที่ 23 มีนาคม นี้ ได้แก่ ออสเตรีย, เบลเยี่ยม, บัลแกเรีย, สาธารณเช็ค, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, กรีซ, ฮังการี, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ลิกเตนสไตน์, ลักเซมเบิร์ก, มาเก๊า, แม็กซิโก, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, โปแลนด์, โปรตุเกส, เปอร์โต ริโก้, โรมาเนีย, สโลวาเกีย, สโลวาเนีย, สเปน และสวีเดน ส่วนการวางจำหน่ายในประเทศไทย ยังไม่มีวันจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ณ ขณะนี้ครับ ราคา : 15,900 บาท Update : 2012-03-07 สถานะ : วางจำหน่ายแล้ว   การออกแบบดีไซน์ 6   คุณสมบัติและฟังก์ชั่น 7  ความคุ้มค่า 6   คะแนนรวมเฉลี่ย  (จำนวนผู้โหวต : 38 คน )  6   ข้อมูลสเปคของตัวเครื่อง ขนาดของตัวเครื่อง 241.2 x 185.6 x 9.4 มิลลิเมตร มิลลิเมตร น้ำหนัก 652.00 กรัม หน้าจอและความละเอียด จอแสดงผลกว้าง 9.7 นิ้ว แบบ LED-Backlit glossy widescreen Multi-Touch พร้อมเทคโนโลยี IPS ความละเอียด 2048x1536 พิกเซล หน่วยประมวลผล (CPU) Dual-Core ARM Cortex A9 Processor ชิพประมวลผลกราฟฟิค (GPU) PowerVR SGX543MP4 Quad-Core GPU หน่วยความจำ (RAM) ไม่ระบุ หน่วยความจำแบบอ่านอย่างเดียว (ROM) ไม่ระบุ ระบบปฏิบัติการ (OS) iOS 5.1 หน่วยความจำภายใน 16 GB หน่วยความจำภายนอก ไม่รองรับ แบตเตอรี่ Li-Ion Polymer ใช้งานได้สูงสุดประมาณ 10 ชั่วโมง ระบบ เซ็นเซอร์ ตรวจจับ Accelerometer Sensor และ Ambient Light Sensor   ระบบเครือข่าย และ การเชื่อมต่อ โทรศัพท์ ไม่รองรับ รองรับ 3G ไม่รองรับ รองรับ GPRS/EDGE ไม่รองรับ ข้อมูลเครือข่ายที่รองรับ ไม่ระบุ การเชื่อมต่อ Wi-Fi รองรับ (Wi-Fi 802.11 a/b/g/n) รองรับ Bluetooth Bluetooth 4.0 ระบบ GPS นำทาง   ระบบเสียง มัลติมีเดีย และ พอร์ทต่างๆ ลำโพง (Speaker) มีในตัว ไมโครโฟน มีในตัว กล้องด้านหน้า ความละเอียดระดับ VGA กล้องด้านหลัง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ช่องต่อหูฟัง รองรับ ชุดหูฟัง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร พอร์ทเชื่อมต่อ HDMI เชื่อมต่อโดยใช้อุปกรณ์เสริม พอร์ทเชื่อมต่อ USB USB Data Cable เวอร์ชั่น 2.0   คุณสมบัติเด่นของตัวเครื่อง และการรองรับไฟล์ต่างๆ User Interface Apple OS UI ไฟล์แฟลช (Flash Player) ไม่รองรับ ระบบ Multitasking รองรับการทำงานแบบ Multitasking ระบบ Multitouch รองรับการใช้งาน Multitouch ระบบช่วยสะกดคำอัตโนมัติ รองรับ เว็บ Browser HTML Browser (Safari Web Browser) - ระบบ Nitro JavaScript Engine การดาวน์โหลด Application Appstore โปรแกรม Messenger iMessage และ สามารถโหลดเพิ่มเติมได้ ปุ่มกด แป้นควบคุมการทำงานแบบสัมผัส (Touch-Sensitive Panel) คีย์บอร์ด Virtual QWERTY Keyboard ไฟล์เสียงที่รองรับ รอง รับการเล่นไฟล์เพลงประเภท HE-AAC (V1 และ V2), AAC (8 ถึง 320 Kbps), Protected AAC (จาก iTunes Store), MP3 (8 ถึง 320 Kbps), MP3 VBR, Audible (Formats 2, 3 และ 4, Audible Enhanced Audio, AAX และ AAX+), Apple Lossless, AIFF และ WAV ไฟล์วีดีโอที่รองรับ รองรับการเล่นไฟล์วิดีโอประเภท H.264, M4V, MP4, MOV, MPEG4, Motion JPEG (M-JPEG), AVI ไฟล์เอกสารที่รองรับ ไม่ระบุ   คุณสมบัติอื่นๆ ของตัวเครื่อง โปรแกรมเสริมอื่นๆ - โปรแกรม Find My iPad สำหรับการค้นหาเครื่อง iPad จากพิกัดในแผนที่ - โปรแกรม iBooks สำหรับการดาวน์โหลดและเปิดอ่านหนังสือจาก iBookstore - รองรับการสนทนาพร้อมภาพวิดีโอผ่านระบบ WiFi ด้วยโปรแกรม FaceTime ข้อมูลเกี่ยวกับ SMS ไม่มี ข้อมูลเกี่ยวกับ Email รอง รับการเปิดดูไฟล์แนบหลากหลายรูปแบบหรือนามสกุล ได้แก่ .jpg, .tiff, .gif (รูปภาพ) / .doc และ .docx (Microsoft Word) / .htm และ .html (หน้าเว็บเพจ) / .key (Keynote) / .numbers (Numbers) / .pages (Pages) / .pdf (Preview และ Adobe Acrobat) / .ppt และ .pptx (Microsoft PowerPoint) / .txt (Text); .rtf (Rich Text Format); .vcf (Contact Information) / .xls และ .xlsx (Microsoft Excel) ข้อมูลอื่นๆ - รองรับแผ่นปิดหน้าจอแบบ iPad Smart Cover ซึ่งยึดติดกับหน้าจอด้วยเทคโนโลยีแม่เหล็ก - รองรับการชาร์จแบตเตอรี่ผ่านทางสาย USB - รองรับการใช้งานฟังก์ชัน Video Calling (สนทนาพร้อมภาพวิดีโอ) - มี 2 สีให้เลือก (ดำ และ ขาว) เมื่อวันที่ : 08 มีนาคม 2555