Saturday, 26 November 2011

สุดทึ่ง! หนูน้อยอังกฤษ 8 ขวบ มีธุรกิจเป็นของตัวเอง



ฮาร์ลี จอร์แดน

          เมื่อหลายปีก่อน เรื่องราวของหนุ่มมาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ได้ทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกอึ้งและทึ่งไปแล้ว ในฐานะผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กและเป็นซีอีโอที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย (24 ปี) มาวันนี้ ดูเหมือนว่าเรื่องราวของมาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก คงจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย เมื่อ เทียบกับเรื่องราวของหนูน้อยที่เรากำลังจะแนะนำให้รู้จักกันในวันนี้ เพราะหนูน้อยรายนี้ได้นั่งเก้าอี้ซีอีโอตั้งแต่อายุเพียง 8 ขวบเท่านั้น

          และหนูน้อยผู้นั่งตำแหน่งซีอีโอตัวน้อยรายนี้ ก็คือ ฮาร์ลี จอร์แดน วัย 8 ขวบ จากลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่กลายเป็นซีอีโออายุน้อยที่สุดในโลกไปแล้ว หลังจากได้ดำเนินธุรกิจขายลูกแก้ว ผ่าน Marble King เว็บไซต์ของตัวเอง  เมื่อ 2 ปีก่อน และมันก็ประสบความสำเร็จอย่างเกินคาดแล้วในวันนี้

          ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน ขณะที่ ฮาร์ลี จอร์แดน อายุได้เพียง 5 ขวบ เขาก็มีวิถีชีวิตเฉกเช่นเด็กปกติทั่ว ๆ ไป คือไปโรงเรียนและเล่นสนุกสนานกับเพื่อน ๆ และแน่นอน ของเล่นที่เขาและเพื่อน ๆ มักจะเล่นกันตอนนั้นก็คือลูกแก้วลูกกลม ๆ สีสันสดใสนั่นเอง แต่เมื่อลูกแก้วเป็นที่ฮิตฮอตกันในโรงเรียน ฮาร์ลี จอร์แดน ก็เริ่มที่จะสะสมลูกแล้วและแบ่งไปขายเพื่อน ๆ จน กระทั่งวันหนึ่งเมื่อมีรุ่นพี่ที่โรงเรียนขอซื้อลูกแก้วทั้งหมดจากจอร์แดน จอร์แดนก็เริ่มมีหัวการค้า อ้อนขอเงินก้อนหนึ่งจากแม่เพื่อซื้อลูกแก้วมาขายต่อ


ฮาร์ลี จอร์แดน


ฮาร์ลี จอร์แดน


          จากการขายลูกแก้วให้คนกลุ่มเล็ก ๆ คราวนี้ก็เริ่มขยับขยายเป็นคนกลุ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุดเมื่อจอร์แดนอายุได้ 6 ขวบ เขาก็ขอให้แม่เปิดเว็บไซต์ให้เขา เพื่อทำเป็นเว็บไซต์ขายลูกแก้วที่สั่งทำมาขายโดยเฉพาะ เว็บไซต์มาร์เบิ้ลคิง (Marble King) จึงถือกำเนิดขึ้น และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก พอ ๆ กับที่มีลูกค้าสั่งลูกแก้วเข้ามาจากทั่วโลกเป็นจำนวนมากมาโดยตลอดเช่นกัน

          ทุกวันนี้ ฮาร์ลี จอร์แดน กลายเป็นนักธุรกิจตัวน้อยที่ทำเอาคนทั่วโลกทึ่งกับสิ่งที่เขาได้ทำลงไป เพราะไม่ใช่แค่เขาจะขายลูกแก้วจนได้กำไรล้นมือแล้ว การริเริ่มธุรกิจลูกแก้วนี้ยังทำให้พ่อแม่และญาติพี่น้องของเขาได้ทำงานที่ มีรายได้ดีขึ้น ขณะที่จอร์แดนเอง ก็ยังคงยืนยันที่จะขายลูกแก้วแบบนี้ต่อไป เพราะเขาบอก ว่าเขารักธุรกิจนี้มาก และวาดฝันไว้ว่าสักวันหนึ่ง เขาจะมีโรงงานผลิตลูกแก้วหลากสีสันหลากลวดลายเป็นของตัวเองและขยับขยายให้ เป็นโรงงานใหญ่ ๆ ซึ่งก็ดูเหมือนว่า ความฝันนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะไขว่คว้าได้อย่างยากเย็นเลย

          เผลอ ๆ อีกไม่กี่ปีข้างหน้า ลูกแก้วแบรนด์ "Marble King" อาจจะแจ้งเกิดและเปิดตัวอย่างสง่างาม และเป็นลูกแก้วแบรนด์ดังของโลกเลยก็เป็นได้

ปัญหาชีวิตคู่ 7 ประการ ที่อาจต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ





           ว่า กันว่าชีวิตคู่ที่แท้จริงจะเริ่มต้นขึ้น เมื่อการแต่งงานและช่วงเวลาฮันนีมูนอันแสนหวานได้จบลง บางคู่ใช้ชีวิตร่วมกันหลังจากนั้นไปได้อย่างราบรื่น ในขณะที่อีกหลาย ๆ คู่กลับต้องเผชิญกับมรสุมชีวิต บ้างก็ยังพอประคับประคองกันไปได้ แต่ที่ยังระหองระแหงกันก็มีอยู่ไม่น้อย การแก้ปัญหาไปด้วยกันอาจได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง ขึ้นอยู่กับวิธีการที่แต่ละคู่หยิบมาใช้

           แต่เมื่อปัญหาเริ่มหนักหนาเกินกว่ารับมือเพียงลำพัง การ หันหน้าปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในรื่องปัญหาครอบครัวและการใช้ชีวิตคู่ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะทำให้ได้เห็นปัญหาและวิธีทางแก้ไขในมุมที่กว้างขึ้น ส่วนปัญหาใหญ่ ๆ ที่ทำให้คนส่วนมาก หันไปพึ่งนักแก้ปัญหาชีวิตคู่มืออาชีพนั้นจะมีอะไรบ้าง ลองมาดูกันค่ะ…

1. การเงิน

           แม้จะบอกว่าเงินทองเป็นเรื่องนอกกาย ไม่มีอะไรสำคัญเท่าความรัก แต่การใช้ชีวิตอยู่โดยมีเงินใช้แบบชักหน้าไม่ถึงหลังก็ลำบากไม่ใช่เล่น และเป็นเรื่องที่ทำให้หลาย ๆ คู่ถึงขั้นทะเลาะกันรุนแรงมาแล้ว เมื่อเงินไม่พอใช้ การกล่าวโทษอีกฝ่ายก็ตามมา นำมาซึ่งการผิดใจกัน และอาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่เรื่องอื่น ๆ ด้วย ผู้เชี่ยวชาญชีวิตคู่จะสามารถให้คำแนะนำคุณ เพื่อการแก้ปัญหาที่ตรงจุดได้

2. การนอกใจ

           ปัญหานี้เป็นปัญหาสำคัญที่สุดสำหรับการใช้ชีวิตร่วมกัน และเป็นตัวบ่อนทำลายความรักและความเชื่อใจกันอย่างร้ายกาจ แต่หากทั้งสองฝ่ายต่างรู้สึกว่าอยากจะปรับปรุงตัวเองให้ความรักกลับมาดีเช่น ดังเดิม การยืมมือผู้ให้คำปรึกษาการใช้ชีวิตคู่มาเป็นตัวกลางดูจะเป็นทางออกที่ลงตัว สำหรับทั้งคู่ อันจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายค่อย ๆ ปรับความเข้าใจ และเรียกความเชื่อใจให้กลับคืนมา

3. เซ็กส์

           ส่วนประกอบที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของความรักก็คือเรื่องความสัมพันธ์ชิดใกล้ การที่คู่รักไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันเป็นสาเหตุประการหนึ่งที่ทำให้รัก ล่ม เนื่องด้วยปัจจุบันมีเรื่องราวในชีวิตคู่ที่ทำให้เกิดความเครียดได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นบิลค่าใช้จ่ายกองพะเนิน เรื่องลูก เรื่องบ้าน เรื่องการดูแลพ่อแม่ของตัวเอง เรื่องภาระรับผิดชอบจากที่ทำงาน ฯลฯ ทำให้ความรู้สึกอยากแนบสนิทชิดใกล้หดหายไป ไม่มีอารมณ์ที่จะมากุ๊กกิ๊กกันเหมือนแต่ก่อน ในกรณีเช่นนี้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการใช้ชีวิตคู่จะช่วยให้คุณหาสาเหตุของการ ร้างราได้ง่ายขึ้น

4. ลูก

           เรื่องของลูกก็สามารถนำความขัดแย้งมาสู่ชีวิตคู่ได้ โดยเฉพาะเมื่อทั้งฝ่ายสามีและภรรยา ถูกเลี้ยงมาอย่างแตกต่างกัน ซึ่งนั่นหมายความว่า ต่างฝ่ายต่างก็จะมีวิธีเลี้ยงดูลูกที่แตกต่างกันไปด้วย ซึ่งความแตกต่างนี้ อาจนำมาสู่ความขัดแย้งระหว่างคู่แต่งงานได้

5. ปัญหาเรื่องการสื่อสาร

           เคยบ้างไหมที่คุณรู้สึกว่าไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่คู่รักของคุณพูดได้ หรือรู้สึกว่าบางครั้งเขาก็ไม่ตั้งใจฟังสิ่งที่คุณต้องการบอก หรือที่แย่ที่สุดคือคุณทั้งคู่ต่างไม่พูดคุยกันเลย หากสามารถหาคนกลางเพื่อช่วยให้ทั้งสองฝ่ายค่อย ๆ ปรับความเข้าใจกันได้ ก็จะช่วยให้ความสัมพันธ์ค่อย ๆ กับมาดีเช่นดังเดิม

6. ความโกรธ

           แม้จะรู้ว่าไม่ควรเอาความโกรธหรือความไม่พอใจมาระบายใส่กัน แต่บางครั้งเมื่อขาดสติก็เผลอที่จะทำแบบนั้นไม่ได้ แม้จะไม่ตั้งใจ แต่มันก็เป็นชนวนนำไปสู่รักร้าวได้ในที่สุด ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการใช้ชีวิตคู่ จะช่วยชี้จุดปัญหาให้เห็น ช่วยให้คุณทั้งสองปรับความเข้าใจกัน และช่วยให้เรียนรู้การควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ดีขึ้น

7. ภาวะมีบุตรยาก

           การประสบปัญหาภาวะมีบุตรยาก เป็นเหมือนฝันร้ายของหลายคู่ที่หวังจะมีเจ้าตัวน้อยเพื่อมาเติมเต็มให้คำว่า ครอบครัวสมบูรณ์กว่าเดิม แต่เมื่อไม่สามารถประสบควาเร็จอย่างที่หวังได้  ฝ่ายผู้หญิงเองคงอดไม่ได้ที่จะโทษตัวเองว่าไม่สมบูรณ์ หรือฝ่ายชายก็รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถทำหน้าที่ของผู้ชายได้ ซึ่งความรู้สึกแบบนี้จะนำความอึมครึมและปัญหาอื่น ๆ ให้ตามมาได้อีก การเข้าปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องการใช้ชีวิตคู่ แม้จะไม่ได้ช่วยให้ฝ่ายหญิงตั้งท้องขึ้นมาอย่างที่ต้องการ แต่ก็สามารถช่วยบำบัดความรู้สึกไม่ดีที่เกิดขึ้นให้บรรเทาลงได้บ้าง

           ปัญหา หลาย ๆ อย่างที่เกิดระหว่างการใช้ชีวิตร่วมกัน อาจแก้ไขได้โดยตัวคนรักทั้งคู่เอง แต่บางครั้งการยืมมือคนกลางเข้ามาชวยคลี่คลายปัญหา ก็ช่วยให้การจัดการกับปัญหาเป็นไปได้อย่างตรงจุด ง่าย และนุ่มนวลขึ้น หากมีปัญหาเรื่องชีวิตคู่ที่ยังแก้ไม่ตก การเข้ารับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้โดยเฉพาะอาจเป็นตัวเลือกที่ดี อีกทางของคุณได้ค่ะ

Friday, 25 November 2011

วิธีติดตั้ง iOS 5.0.1 ใน iPhone 4 เครื่อง Lock โดยรักษา baseband เก่าไว้ เพื่อใช้ Gevey Sim unlock

สิ่งที่ต้องเตรียม
iOS 5.0.1 สำหรับ iPhone 4
sn0wbreeze v2.8b11 (For iOS 5.0/5.0.1)
Backup และ Transfer Purchases ด้วย iTunes ก่อนทำ

วิธีทำ
1. แตก sn0wbreeze-v2.8b11.zip ออกมาจะได้ sn0wbreeze-v2.8b11.exe (นามสกุลอาจถูกซ่อนไว้)
2. เปิด sn0wbreeze-v2.8b11.exe กด OK

3. กด Close Credits

4. กดลูกศรมุมขวาล่าง

5. Browse หา หรือ ลาก iPhone3,1_5.0.1_9A405_Restore.ipsw มาวาง

6. ถ้าตรวจสอบผ่าน กดลูกศรมุมขวาล่าง

7. เลือก Expert Mode กดลูกศรมุมขวาล่าง

8. เลือก General กดลูกศรมุมขวาล่าง

9. ถ้าไม่มี sim แท้สำหรับใช้ activate ติ๊ก Activate The iPhone [Hacktivate] ถ้ามีไม่ต้องติ๊ก

10. กดลูกศรมุมขวาล่าง

11. เลือก Build IPSW กดลูกศรมุมขวาล่าง

12. เลือกเล่น Pacman หรือไม่ก็ได้

13. พอเสร็จ กด OK

14. เข้าสู่ Pwned DFU mode ทำตามหน้าจอ ต่อสาย USB แล้ว ปิดเครื่อง แล้วกด Start

15. นับถอยหลัง 5 วินาที กดปุ่ม power+home 10 วินาที ปล่อยปุ่ม power แต่กดปุ่ม home ค้างไว้ต่ออีกไม่เกิน 30 วินาที



15. ถ้าสำเร็จ ปิด sn0wbreeze
17. เปิด iTunes กดปุ่ม Shift ค้างไว้แล้วกดปุ่ม Restore (sn0wbreeze อาจเปิด iTunes ให้)
18. เลือก custom firmware ที่ sn0wbreeze สร้างขึ้นมา อยู่บน Desktop ชื่อ sn0wbreeze_iPhone 4-5.0.1.ipsw กด OK
19. ทำเสร็จเครื่องจะ reboot เอง (หาก boot ไม่ขึ้นเป็นเวลานาน ใช้ iBooty ตามวิธีข้างล่าง)
20. หลัง reboot จะมีขั้นตอนการ activate บน iPhone
21. iTunes จะมีทางเลือกให้ Set as new หรือ Restore from Backup เลือกได้ตามใจ
21. ทำตามขั้นตอน unlock ด้วย Gevey Sim ตามคู่มือของ Gevey Sim

การ reboot ทุกครั้ง รวมทั้งครั้งแรกหลังจากติดตั้งเสร็จ อาจค้างที่ logo Apple เพราะนี่คือ tethered jailbreak
sn0wbreeze จะสร้าง folder ชื่อ iBooty-for-5.0.1 ไว้บน Desktop
ภายในจะมี iBooty.exe ที่ใช้ในการ boot สำหรับเครื่อง tethered
วิธีใช้ iBooty
1. เปิด iBooty.exe (นามสกุลอาจถูกซ่อนไว้)

2. เลือกอุปกรณ์จาก drop-down list มุมขวาล่างเป็น iPhone 4-GSM กด Start

3. ทำตามขั้นตอนบนหน้าจอเพื่อเข้าสู่ DFU mode

เม็กซิโก เผยพบปฏิทินวันสิ้นโลกอันที่ 2 เผ่ามายา





จังโก้ยันพบปฏิทินวันสิ้นโลกอันที่ 2 เผ่ามายา (ไอเอ็นเอ็น)

          มีการค้นพบปฏิทินวันสิ้นโลกปี 2012 ของชนเผ่ามายา ชิ้นที่ 2 แต่นักโบราณคดีของเม็กซิโกยันว่าไม่จำเป็นต้องกังวลมาก


          มีการค้นพบปฏิทินวันสิ้นโลก 2012 ของชนเผ่ามายา อันที่ 2 ซึ่งผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่ามีการค้นพบปฏิทินที่อ้างถึงวันสิ้นโลกปี 2012 ถูกจารึกไว้ในปราสาทโคมัลคัลโคจริง แต่ทางการเม็กซิโกเองก็ได้ทำการเก็บรักษามันไว้เป็นอย่างดีมานานหลายปีแล้ว ก่อน หน้านี้มีการค้นพบหลักฐานทำนายวันสิ้นโลกของชนเผ่ามายาอันแรกไม่ไกลกันนักใน พื้นที่ทอร์ทูกัวโร พื้นที่ของชนเผ่ามายา ในรัฐตาบัสโก ที่ระบุวันที่เดียวกันบนศิลาจารึกแท่งหนึ่งแต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนบอกว่าการ แปลภาษาบนแท่นศิลาจารึกมีความคลาดเคลื่อน และเจ้าหน้าที่จากสถาบันประวัติศาสตร์และโบราณคดีของเม็กซิโก พูดมานานแล้วว่าความตื่นกลัวนี้คือการแปลความหมายแบบผิด ๆ จึงทำให้เกิดความหวาดกลัวไปกันเอง

Thursday, 24 November 2011

มาป้องกัน และปฐมพยาบาล เมื่อ iPhone ต้องเจอกับน้ำ

ศัตรูหมายเลขหนึ่งของ iPhone หรือจะกับสินค้า IT ต่างๆ ถ้าจะว่ากันแล้ว ก็เห็นจะมีหลักๆอยู่สองอย่าง นั้นคือ อุบัติเหตุ กับ น้ำ สำหรับอุบัติเหตุ เป็นสิ่งที่ป้องกันได้ ด้วยการใช้สติ ใช้ความไม่ประมาท รวมถึงใช้อย่างถูกต้องตามวิธีการปกติ ส่วนอย่างที่สอง ดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงกันได้ แต่ก็มักจะเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะน้ำกับความชื้น ถือเป็นปกติของสภาพธรรมชาติของโลก

ในเมื่ออุปกรณ์ IT ต่างๆ รวมถึง iPhone ไม่ชอบน้ำ ความชื่น ประกอบกับช่วงที่เขียนนี้ เป็นเทศกาลสงกรานต์ ทีมงานเลยเขียนแต่เรื่องของน้ำ เราสามารถป้องกันได้ รวมถึงพอจะบรรเทาความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ ด้วยวิธีง่ายๆเพียงไม่กี่ข้อ ที่ใช้ได้กับทุกเวลา ไม่แค่เทศกาลนี้ แต่รวมถึงการไปท่องเที่ยวหรือใช้ชีวิตประจำวันด้วยเช่นกัน

1 เลี่ยงพฤติกรรมการใช้งานเสี่ยง

พื้นฐานของ iPhone ไม่ได้เกิดมาใช้งานกับน้ำ โดยปกติ iPhone / iPod / iPad จะมีกระดาษวัดความชื้น (เว้น iPad 2 ที่ไม่มีแล้ว) หากกระดาษนี้เป็นสีชมพูหรือแดง จะเท่ากับหมดประกันเนื่องจากความชื้นทันที กระดาษนี้ มีโอกาสเปลี่ยนสีได้เสมอ ไม่จำเป็นต้องตกน้ำเท่านั้น พฤติกรรมการใช้งาน ก็มีผลได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเรื่องสภาพอากาศ สภาพแวดล้อม หลายครั้ง ความชื้นจากสภาพแวดล้อมเหล่านี้ ก็ส่งผลให้ประกันหลุด ไปจนถึงเครื่องมีปัญหาการใช้งานได้

การป้องกันที่ดีที่สุด ผู้ใช้ต้องลดพฤติกรรมเสี่ยงด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะการไม่วาง iPhone ในสภาพแวดล้อมที่ชื้นเช่น ห้องแอร์เย็นเกินไป ใช้งานในห้องน้ำขณะอาบน้ำ วางข้างแก้วน้ำเย็นจัดบ่อยๆ หรือในเวลาฝนตก ต้องเก็บให้มิดชิด เพราะตัวอย่างเหล่านี้ มีโอกาสสร้างความชื้นให้เป็นปัญหากับเครื่องได้แน่นอน กันไว้ดีกว่าแก้ครับ

2 ซองมือถือแบบกันน้ำ ไม่ได้ใช้แค่เทศกาล และไม่ได้ชัวร์ 100%

ในเทศกาลสงกรานต์ หรือการท่องเที่ยว หรือกิจกรรมบางแบบที่ต้องอยู่ใกล้ๆน้ำ โดนน้ำ สัผผัสกับน้ำ ซองกันน้ำต่างๆ มีขายมีแจกกันในเทศกาลแบบนี้เสมอ ซองกันน้ำเหล่านี้ จะลักษณะเหมือนถุงพลาสติกใส มีฝาปิดปากถุงหลายแบบ ไม่ว่าจะแบบพับปิด / กระดุม / ซิปล็อค โดยมากแล้ว ขนาดของถุงจะค่อนข้างใหญ่ เหมาะสำหรับห้อยคอมากกว่า หรือกระเป๋ากางเกงต้องใหญ่พอสมควร


โดยมากแล้ว จะสามารถกันน้ำได้พอสมควร แต่อาจไม่กันระดับที่จมลงไปในน้ำ เพราะซองบางแบบ อาจมีมุมหรือช่องอากาศเหลือบาง แต่ซองกันน้ำแบบเยี่ยมๆ หรือเกิดมาเพื่อกันน้ำจริงๆ ก็มีผู้ผลิตซอง เคส หลายเจ้าที่ดังๆ ทำขายเหมือนกัน แต่ราคาก็ค่อนข้างสูง และอาจหาซื้อยากสักนิด เพราะโอกาสใช้งาน อาจไม่เยอะเท่าที่ควร ทำให้การสั่งซองกันน้ำจากผู้ผลิตเจ้าดังๆ จึงหายากสักนิด
ดังนั้น ซองเหล่านี้ ถือเป็นทางออกที่ดีต่อการใช้งาน แต่ก็ต้องระวังตกน้ำ หรือการพกพาก็ต้องระวังมิจฉาชีพที่จะมีล้วงไป หรือกระชากจากการห้อยคอได้เช่นกัน

3 ตั้งสติในการแก้ไขเมื่อเปียกหรือตกน้ำ

เมื่อเครื่องถูกน้ำ หรือตกน้ำ สิ่งแรกที่ทุกคนต้องมีก่อนคือสติ โดยปกติ ถ้าน้ำหกใส่ iPhone แต่ไม่ซึมเข้าช่องลำโพง / ช่องลำโพงสนทนา / ช่อง 30 pin / ช่องหูฟัง หยิบมาเช็ดให้แห้งตามปกติยังพอทำได้ แต่ในกรณีที่ตกน้ำ น้ำซึมเข้าบรรดาช่องเหล่านี้ ให้ตั้งสติ อย่าตกใจ หยิบขึ้นมาจากน้ำให้เร็วที่สุด ทุกอย่างให้แห้ง รวมถึงกำเครื่องให้แน่นๆ และสะบัดน้ำออกเท่าทีทำได้  เนื่องจาก iPhone เป็นโทรศัพท์ที่ถอดแบตเตอรี่ไม่ได้ เพราะฉะนั้น ห้ามนำไฟเข้าเครื่อง หรือให้ไฟในเครื่องทำงานทุกกรณี เพราะโดยปกติ หากตกน้ำ ไม่เกินห้าวินาทีแรกที่ตก เครื่องจะช็อตและดับไปเอง การเปิดเครื่อง หรือพยายามชาร์จไฟเข้า จะทำให้เครื่องเสียหายมากกว่าเดิม

วิธีแก่้ไขที่ง่ายที่สุด หลังจากเครื่องตกน้ำแล้ว ให้รีบทำเครื่องให้แห้งโดยเร็วที่สุด โดยการทำให้แห้ง ต้องห้ามใช้ความร้อนในการทำให้แห้ง เพราะฉะนั้น อย่าใช้ไดร์เป่าผมในการทำให้แห้ง หลังจากเช็ดให้แห้งแล้ว หาวัตถุดูดความชิ้นมาช่วย ง่ายที่สุดคือการนำไปแช่ในถังข้าวสาร เพราะข้าวสารช่วยดูดความชื้นได้ แช่ไว้อย่างน้อย 8-12 ชั่วโมงขึ้นไป หลังจากนั้น สามารถทำไปให้ช่างซ่อมทำการล้างบอร์ดตัวเครื่อง
แต่ทั้งนี้ การซ่อมเครื่องที่ตกน้ำมา ถึงจะกลับมาใช้งานได้ แต่สภาพต่างๆ จะทำงานไม่ 100% เหมือนเครื่องปกตินะครับ

4 8,800 บาท ได้เครื่องใหม่

โดยเงื่อนไขการรับประกันของ Apple แล้ว ถึงการเสียหายที่เกิดจากผู้ใช้งาน จะอยู่นอกเงื่อนไขการรับประกันก็จริงอยู่ แต่ Apple ก็มีเงื่อนไขในการช่วยเหลือกรณีเครื่องเสียจากอุบัติเหตุ รวมถึงการตกน้ำเช่นกัน นั้นคือให้นำเครื่องมาแลกซื้อเครื่องใหม่ที่เป็นเครื่องเคลม Model LL เช่นเดียวกับที่เคลมให้กับเครื่องที่มีปัญหาจากการใช้งานปกติ ในราคาขายรวมภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 8,800 บาท โดยมีประกันเครื่องให้ใช้ตามระยะเวลาที่เหลือ เช่น หากเครื่องเหลือประกันหกเดือน การซื้อเครื่องเคลม เครื่องเคลมนั้น ก็จะรับประกันหกเดือนเท่านั้น

ถ้ามองในแง่ความคุ้มค่า เงิน 8,800 อาจแพงสำหรับหลายคน แต่ถ้าคิดในแง่ว่าซ่อมแล้วซ่อมอีก หรือซ่อมแล้วยังไงก็ไม่สมบูรณ์ การได้เครื่องใหม่ในราคานี้ ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน

5 วาง iPhone ไว้บ้าน แล้วออกไปลุยน้ำ ลงน้ำ

ในเมื่อน้ำเป็นศัตรูกับสุขภาพเครื่องขนาดนี้ บางที หากไม่มีความจำเป็นต้องพกมือถือออกไป บางที การสังสรรค์ในเทศกาลสงกรานต์นี้ หรือการเที่ยวทะเล เที่ยวน้ำตก หรือจะไปเล่นน้ำ รวมถึงกิจกรรมในชีวิตประจำวันอย่างการอาบน้ำ บางครั้งก็ควรเลี่ยงที่จะพามือถือไปเจอสภาพแวดล้อมเสี่ยงแบบนั้น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น หลายครั้งอาจไม่คุ้มกับความสะดวกเพียงเล็กน้อยที่ต้องการ

บางที ในเวลาพักผ่อนของเรา วางโทรศัพท์ไว้ แล้วไปลุยให้เต็มที่ดีกว่านะครับ^^
ห้าข้อเบื้องต้นนี้ น่าจะทำให้เทศกาลสงกรานต์ การไปเที่ยว หรือกิจกรรมที่เกี่ยวกับน้ำ มีความปลอดภัยต่อการใช้งาน iPhone มากขึ้นนะครับผม เช่นเดิมครับ พูดคุย สอบถาม กับทีมงาน iPhone 4 Society ได้ผ่าน Facebook Fan Page iPhone4Society หรือติดตามผ่าน Twitter @iphone4society ได้เสมอ ทีมงานทุกท่าน ยินดีพูดคุย และตอบคำถาม ข้อเสนอแนะต่างๆเสมอครับผม^^